เท่าที่สังเกต และสะสมข้อมูลมานานปี ดิฉันมาสรุปว่า ปฏิกิริยาของคนเรา เมื่อได้กินอะไรที่อร่อยติดใจ จะจำแนกออกได้เป็นสามกลุ่ม หนึ่งคืออยากกินอีก ซึ่งถ้าสิ่งนั้นซื้อหาได้ ก็จะกลับไปซื้อกินบ่อยมาก จนกระทั่งวันหนึ่งเบื่อ แล้วเลิกไปเลย สองคืออยากกินอีกเหมือนกัน แต่จะกินเมื่อมีโอกาสเหมาะ จึงจรรโลงความชอบไปได้นาน ๆ และสามคือไม่แต่เพียงอยากกินอีกเท่านั้น อยากทำเองเป็นด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้ออีก แถมดีไม่ดี ทำขายแข่งได้อีกด้วย ปฏิกิริยาประเภทที่สามนี้ หากเกิดขึ้นกับผู้มีความมุมานะ อุตสาหะ และความสร้างสรรค์ ย่อมเป็นรากฐานทั้งของความพึงพอใจส่วนตัว และของธุรกิจที่รุ่งเรืองได้ แต่ส่วนมากมักจะเกิดขึ้นกับคนที่ชอบฝันมากกว่าชอบทำ
ดิฉันมีนักเรียนไม่น้อย ที่อยากจะทำขนมปังบาเก็ตต์ และครัวซองท์ ให้อร่อยเท่ากับที่ซื้อจากร้านเบเกอรีดี ๆ ดิฉันเข้าใจดีใน "ความอยาก" ชนิดนี้ เพราะเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว ตั้งแต่สาว ๆ เปิดตำราทำเองผิด ๆ ถูก ๆ ก็ลองตำราบาเก็ตต์มานับไม่ถ้วน ลองทำแป้งพัฟ เพื่อจะทำครัวซองท์ หมดเนยหมดแป้งไปเป็นสิบสิบกิโล จนไปเรียนทำครัวเป็นกิจจะลักษณะ ทำแป้งพัฟเป็นแล้ว ทำครัวซองท์ก็เป็นแล้ว แถมไปเรียนทำขนมปังโดยเฉพาะเสริมมาอีก ทำให้ทำขนมปังบาเก็ตต์เป็นแล้วเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้ ก็ยังคงซื้อขนมปังบาเก็ตต์กับครัวซองท์กินเมื่อนึกอยากอยู่นั่นแหละ เพราะอะไรหรือ? เพราะได้พบสัจจธรรมว่า ของบางอย่าง ปล่อยให้มืออาชีพทำเถิด ทำเองที่บ้าน อย่างไร ๆ ก็ไม่เหมือน ไม่อร่อยเท่า เพราะเครื่องปรุงและอุปกรณ์ที่เรามีกันที่บ้าน ไม่ได้ระดับของที่มืออาชีพเขาใช้กัน
แต่แป้งอย่างหนึ่งที่ไม่เคยมีใครคิดจะทำเอง แม้กระทั่งมืออาชีพ คือแป้งฟิโล ซึ่งตั้งแต่เชฟระดับโลก ไปถึงแม่ครัวพ่อครัวสมัครเล่น ก็ควักกระเป๋าซื้อเอาทั้งนั้น แล้วเจ้าแป้งนี้มันวิเศษอย่างไร? ติดตามอ่านต่อในวันหน้า
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment